Conversion คืออะไร

Conversion คืออะไร

Conversion หมายถึง การกระทำใด ๆ ของลูกค้าที่ตรงตามเป้าหมายที่ธุรกิจกำหนดไว้

ตัวอย่างของ Conversion:

การสั่งซื้อสินค้า: ลูกค้าคลิกซื้อสินค้าจากเว็บไซต์หรือหน้าร้าน
การสมัครสมาชิก: ลูกค้ากรอกข้อมูลเพื่อสมัครสมาชิก
การดาวน์โหลดเอกสาร: ลูกค้าดาวน์โหลดเอกสาร whitepaper หรือ ebook
การกรอกแบบฟอร์ม: ลูกค้ากรอกแบบฟอร์มติดต่อสอบถาม
การดูวิดีโอ: ลูกค้าดูวิดีโอจนจบ
ประเภทของ Conversion:

Micro Conversion: การกระทำเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่แสดงถึงความสนใจ เช่น การดูสินค้า การกดไลค์
Macro Conversion: การกระทำที่สำคัญ เช่น การสั่งซื้อสินค้า การสมัครสมาชิก
วิธีการวัด Conversion:

การติดตั้ง Conversion Tracking: ติดตั้งโค้ดบนเว็บไซต์เพื่อติดตาม Conversion
การวิเคราะห์ข้อมูล: วิเคราะห์ข้อมูล Conversion เพื่อหาจุดอ่อนและจุดแข็งของแคมเปญ
Conversion เป็นสิ่งสำคัญสำหรับธุรกิจ เพราะช่วยให้ธุรกิจวัดผลลัพธ์ของแคมเปญการตลาด วิเคราะห์ว่าอะไรได้ผล อะไรไม่ได้ผล และปรับปรุงแคมเปญให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

Engagement คืออะไร

Engagement มีหลายความหมาย ขึ้นอยู่กับบริบทที่ใช้

1. Engagement ในแง่ของการตลาด:

หมายถึง การมีส่วนร่วมของกลุ่มเป้าหมายกับแบรนด์หรือธุรกิจบนช่องทางออนไลน์
วัดผลได้จากยอดไลก์ แชร์ คอมเมนต์ กดติดตาม ฯลฯ
Engagement ที่ดี ช่วยให้แบรนด์เป็นที่รู้จัก สร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า และเพิ่มยอดขาย
2. Engagement ในแง่ของพนักงาน:

หมายถึง ความผูกพันของพนักงานที่มีต่องานและองค์กร
พนักงานที่มี Engagement สูง จะทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ มีความสุขกับงาน และรักษาองค์กรไว้
องค์กรสามารถสร้าง Engagement ของพนักงานได้โดย จัดสวัสดิการที่ดี สร้างบรรยากาศการทำงานที่ดี มอบหมายงานที่ท้าทาย ฯลฯ
3. Engagement ในแง่ของการเรียนรู้:

หมายถึง ระดับความสนใจและความทุ่มเทของผู้เรียนที่มีต่อการเรียนรู้
นักเรียนที่มี Engagement สูง จะเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ จดจำเนื้อหาได้ดี และสนุกกับการเรียน
ครูสามารถสร้าง Engagement ของนักเรียนได้โดย ใช้กิจกรรมการเรียนรู้ที่หลากหลาย นำเสนอเนื้อหาที่น่าสนใจ ฯลฯ
สรุป

Engagement เป็นคำที่มีความหมายกว้าง ขึ้นอยู่กับบริบทที่ใช้ แต่โดยรวมแล้ว หมายถึง ระดับความสนใจ ความผูกพัน และความทุ่มเทที่มีต่อสิ่งใดสิ่งหนึ่ง

วิธีการยิงโฆษณา 2024

วิธีการยิงโฆษณาในปี 2567

เทรนด์หลัก

การ personalizzate: เน้นการยิงโฆษณาที่ตรงใจกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น โดยใช้ข้อมูลของลูกค้า (Customer Data) มาวิเคราะห์และสร้างกลุ่มเป้าหมาย (Audience) ที่มีความเฉพาะเจาะจง
การใช้ AI และ automation: ใช้เครื่องมือ AI และ automation ในการยิงโฆษณา ช่วยให้ประหยัดเวลาและเพิ่มประสิทธิภาพ
การวัดผลลัพธ์: เน้นการวัดผลลัพธ์ (KPI) ที่ชัดเจน วิเคราะห์ข้อมูลเพื่อหาจุดอ่อนและจุดแข็งของแคมเปญ

วิธีการยิงโฆษณา

1. กำหนดเป้าหมาย (Objective):

ต้องการเพิ่มยอดขาย (Conversion)
ต้องการสร้างการรับรู้ (Awareness)
ต้องการกระตุ้นการมีส่วนร่วม (Engagement)
2. เลือกกลุ่มเป้าหมาย (Audience):

เลือกกลุ่มเป้าหมายตามข้อมูลประชากร (Demographics) เช่น เพศ อายุ สถานที่
เลือกกลุ่มเป้าหมายตามความสนใจ (Interests) เช่น ชอบกีฬา ชอบท่องเที่ยว
เลือกกลุ่มเป้าหมายตามพฤติกรรม (Behavior) เช่น ซื้อสินค้าออนไลน์ เล่นโซเชียลมีเดีย

3. เลือกแพลตฟอร์ม (Platform):

Facebook
Instagram
YouTube
Google Ads
TikTok

4. ตั้งงบประมาณ (Budget):

กำหนดจำนวนเงินที่ต้องการใช้
เลือกวิธีการจ่ายเงิน เช่น CPM, CPC, CPA

5. ออกแบบโฆษณา (Creative):

รูปภาพ
วิดีโอ
ข้อความ

6. ติดตามผลลัพธ์ (Tracking):

วิเคราะห์ข้อมูลว่าแคมเปญโฆษณาประสบความสำเร็จหรือไม่
ปรับแต่งแคมเปญโฆษณาตามผลลัพธ์
เทคนิคเพิ่มเติม:

การใช้ Storytelling: เล่าเรื่องราวเพื่อดึงดูดความสนใจ
การใช้ Influencer Marketing: จ้าง Influencer มาโปรโมทสินค้า
การใช้ Video Ads: วิดีโอดึงดูดความสนใจได้มากกว่ารูปภาพ
การใช้ Retargeting: ยิงโฆษณาซ้ำไปยังกลุ่มคนที่เคยดูโฆษณาหรือเคยเข้าเว็บไซต์

วิธีการโปรโมทสินค้า ให้ได้ผล 2024

วิธีการโปรโมทสินค้า ให้ได้ผล 2024

ในปี 2024 การโปรโมทสินค้าให้ได้ผลนั้น จำเป็นต้องอาศัยกลยุทธ์ที่หลากหลาย ผสมผสานทั้งช่องทางออนไลน์และออฟไลน์ เข้าใจพฤติกรรมผู้บริโภคยุคใหม่ และใช้เทคโนโลยีอย่างชาญฉลาด

กลยุทธ์การโปรโมทสินค้า

เข้าใจพฤติกรรมผู้บริโภค: ศึกษาข้อมูล เกี่ยวกับกลุ่มเป้าหมาย เข้าใจความต้องการ พฤติกรรม และช่องทางที่พวกเขาใช้
สร้างจุดเด่นให้สินค้า: ค้นหาจุดเด่น ของสินค้า ที่แตกต่างจากคู่แข่ง และนำเสนอจุดเด่นนั้นให้ชัดเจน
กำหนดเป้าหมาย: กำหนดกลุ่มเป้าหมาย ให้ชัดเจน เพื่อเลือกช่องทาง และวิธีการโปรโมท ที่เหมาะสม
เลือกช่องทางการโปรโมท: เลือกช่องทางการโปรโมท ที่เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมาย ผสมผสานทั้งช่องทางออนไลน์ และออฟไลน์
สร้างเนื้อหาที่ดึงดูดใจ: สร้างเนื้อหา ที่น่าสนใจ ดึงดูดความสนใจ และสร้างการจดจำ
ใช้เทคโนโลยี: ใช้เทคโนโลยี ต่างๆ เช่น AI Big Data เพื่อช่วยวิเคราะห์ข้อมูล และทำการโปรโมท ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
วัดผลและติดตาม: วัดผล และติดตามผลลัพธ์ ของการโปรโมท อยู่เสมอ เพื่อนำมาปรับปรุงกลยุทธ์ ให้มีประสิทธิภาพ
ตัวอย่างวิธีการโปรโมทสินค้า

ช่องทางออนไลน์
โฆษณาบนโซเชียลมีเดีย
โฆษณาบน Google
ทำ SEO
ทำ Content Marketing
ทำ Influencer Marketing
ช่องทางออฟไลน์:
โฆษณาบนโทรทัศน์
โฆษณาบนวิทยุ
โฆษณาในสิ่งพิมพ์
จัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย
เข้าร่วมงานอีเวนต์
เทคโนโลยีสำหรับการโปรโมทสินค้า

AI: ใช้ AI วิเคราะห์ข้อมูล เกี่ยวกับกลุ่มเป้าหมาย พฤติกรรม และความสนใจ เพื่อนำมาปรับแต่งการโปรโมท ให้ตรงใจ
Big Data: ใช้ Big Data วิเคราะห์ข้อมูล เกี่ยวกับผลลัพธ์ ของการโปรโมท เพื่อนำมาปรับปรุงกลยุทธ์ ให้มีประสิทธิภาพ
AR/VR: ใช้ AR/VR สร้างประสบการณ์ ใหม่ และดึงดูดความสนใจ ให้กับลูกค้า
สรุป

การโปรโมทสินค้า ให้ได้ผลในปี 2024 จำเป็นต้องอาศัยกลยุทธ์ที่หลากหลาย ผสมผสานทั้งช่องทางออนไลน์ และออฟไลน์ เข้าใจพฤติกรรมผู้บริโภคยุคใหม่ และใช้เทคโนโลยีอย่างชาญฉลาด